• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ชื่อ:

การตรวจสอบ:

กำลังโหลด...

ข้อความ:

<p>[QUOTE=&quot;crazymann, post: 1201851, member: 1815&quot;]<span style="color: Red">พื้นฐานของเบรก</span></p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; หลังจากที่คุณเหยียบเบรก&nbsp; &nbsp; แรงจากเท้าของคุณจะถูกส่งผ่านไปที่เบรก&nbsp; โดยใช้ของเหลว&nbsp; และเป็นแรงที่มีขนาดมากกว่าที่คุณเหยียบ&nbsp;&nbsp; แรงที่เกิดขึ้นได้มาจากระบบทางกล&nbsp; 2&nbsp; ทางคือ</p><p><br /></p><p>ทางกล&nbsp;&nbsp; (คานดีด คานงัด) </p><p>แรงทางไฮดรอลิก </p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp; ล้อจะลดความเร็วโดยอาศัยแรงเสียดทาน ระหว่าง&nbsp; เบรก&nbsp; กับ&nbsp; จานล้อ&nbsp;&nbsp; และแรงเสียดทานของล้อกับถนน</p><p><br /></p><p><span style="color: red">คานดีด คานงัด </span></p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ด้วยการใช้ระบบคานดีด คานงัด&nbsp;&nbsp; แรงที่เกิดจากการเหยียบ&nbsp;&nbsp; จะเพิ่มขึ้นได้หลายเท่า&nbsp; ก่อนที่จะส่งถ่ายไปที่ของเหลวแรง&nbsp; F จากเท้า&nbsp; กระทำอยู่ทางปลายซ้ายของคาน ซึ่งมีความยาวเป็น 2&nbsp; เท่าของคานขวา&nbsp;&nbsp; เพราะฉะนั้นแรงที่เกิดทางปลายขวาของคานจะเท่ากับ&nbsp; 2F&nbsp; &nbsp;&nbsp; ขณะที่ปลายซ้ายของคานเคลื่อนที่ได้ระยะทาง&nbsp; 2Y&nbsp; &nbsp; ส่วนปลายขวาของคานจะเคลื่อนที่ได้ระยะ&nbsp; Y&nbsp;&nbsp; เท่านั้น</p><p><br /></p><p><span style="color: red">ระบบไฮดรอลิก</span></p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp; แนวคิดของระบบไฮดรอลิกมหัศจรรย์มากๆ&nbsp;&nbsp; ด้วยการใช้ของเหลวส่งถ่ายแรงจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง&nbsp;&nbsp; ของเหลวนั้นเป็นของเหลวที่อัดตัวไม่ได้&nbsp; (Incompressible&nbsp; fluid )&nbsp;&nbsp; ส่วนใหญ่จะใช้น้ำมันลูกสูบ&nbsp; 2&nbsp;&nbsp; อัน&nbsp;&nbsp; เลื่อนอยู่ภายในกระบอกสูบที่บรรจุน้ำมัน&nbsp; &nbsp; กระบอกทั้งสองต่อกันด้วยท่อที่บรรจุน้ำมัน&nbsp;&nbsp; ถ้าคุณใส่แรงกดกับลูกสูบซ้ายในรูปภาพ&nbsp;&nbsp; แรงจะถูกส่งถ่ายไปที่ลูกสูบขวาโดยผ่านทางน้ำมันที่อยู่ภายในท่อ เพราะว่าน้ำมันไม่สามารถอัดตัวได้&nbsp; &nbsp; ทำให้แรงทั้งหมดถูกส่งไป&nbsp; &nbsp; &nbsp; ที่น่าทึ่งก็คือ ท่อที่เชื่อมระหว่างกระบอกสูบทั้งสอง ไม่จำเป็นจะต้องเป็นท่อตรง&nbsp; สามารถโค้งงออย่างไรก็ได้&nbsp; &nbsp; และกระบอกสูบตัวที่สองจะมีจำนวนกี่อันก็ได้&nbsp; แรงจะถูกส่งถ่ายจากกระบอกสูบตัวแรก&nbsp; ไปที่ยังกระบอกสูบทุกอัน&nbsp; ด้วยแรงที่เท่ากันทุกกระบอกสูบ&nbsp;&nbsp; ไม่ใช่น้อยลงตามจำนวนของกระบอกสูบ&nbsp; ในระบบไฮดรอลิก&nbsp; การเพิ่มแรงให้มากขึ้น&nbsp; ทำได้ง่ายมาก&nbsp;&nbsp; 1.&nbsp; เพิ่มจำนวนลูกสูบ&nbsp; หรือ&nbsp; 2.&nbsp; เพิ่มพื้นที่หน้าตัดของลูกสูบรองให้ใหญ่ขึ้น&nbsp; สมมติให้ลูกสูบ&nbsp; A&nbsp; มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง&nbsp; 2&nbsp; นิ้ว&nbsp; (5.08 cm)&nbsp;&nbsp; ขณะที่ลูกสูบ&nbsp; B&nbsp; มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง&nbsp; 6&nbsp; นิ้ว&nbsp; (15.24 cm)&nbsp; พื้นที่หน้าตัดของลูกสูบทั้งสองคำนวณได้จากสูตร&nbsp; Pi x r2&nbsp; ดังนั้นพื้นที่หน้าตัดของ ลูกสูบ A&nbsp;&nbsp; =&nbsp; 3.14&nbsp;&nbsp; ส่วนพื้นที่หน้าตัดของลูกสูบ B&nbsp; =&nbsp; 28.26&nbsp; &nbsp;&nbsp; พื้นที่หน้าตัดของลูกสูบ B จะมากกว่าพื้นที่หน้าตัดของลูกสูบ A อยู่&nbsp; 9&nbsp;&nbsp; เท่า&nbsp; นั่นก็หมายความว่า&nbsp;&nbsp; แรงที่เกิดจากลูกสูบ B จะมากกว่าแรงที่เกิดจากลูกสูบ A&nbsp;&nbsp; 9 เท่าด้วย&nbsp; &nbsp; ถ้าคุณออกแรงกดขนาด&nbsp; 10&nbsp; กิโลกรัม ทางลูกสูบ A&nbsp; &nbsp; จะเกิดแรงขนาด&nbsp; 90&nbsp; กิโลกรัมบนลูกสูบ B หรือถ้าคุณกดลูกสูบ A ลง&nbsp; 9&nbsp; นิ้ว&nbsp; (22.86 cm)&nbsp;&nbsp; ลูกสูบ B จะขึ้น&nbsp; 1&nbsp;&nbsp; นิ้ว (2.54 cm)</p><p><br /></p><p><span style="color: red">แรงเสียดทาน</span></p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp; แรงเสียดทาน&nbsp; คือแรงต้านทานของผิวสัมผัสที่เกิดขึ้น&nbsp; น้ำหนักทางซ้ายกับทางขวาทำจากวัสดุแบบเดียวกัน แต่น้ำหนักทางซ้ายเบากว่าน้ำหนักทางขวา แรงเสียดทานจะน้อยกว่าด้วย</p><p><br /></p><p>ถึงแม้ว่าเมื่อสังเกตด้วยตาเปล่า&nbsp; เห็นว่าผิวของกล่องนั้นเรียบ&nbsp;&nbsp; แต่เมื่อขยายด้วยกล้องจุลทรรศน์&nbsp;&nbsp; จะเห็นรอยขรุขระของผิวกล่อง&nbsp; รอยขรุขระนี้แหละเมื่อเสียดสีกับพื้นจะทำให้เกิดแรงเสียดทานขึ้น&nbsp;&nbsp; และเมื่อจำนวนกล่องมีเพิ่มขึ้น&nbsp; แรงเสียดทานจะเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นด้วย&nbsp;&nbsp; เพราะว่ารอยขรุขระทำให้ผิวสัมผัสเคลื่อนที่ได้ยากขึ้น</p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp; วัสดุต่างชนิดกัน&nbsp;&nbsp; รอยขรุขระย่อมไม่เหมือนกัน ลักษณะของความแข็งของพื้นผิวก็ไม่เหมือนกัน&nbsp; แรงเสียดทานจะต่างกัน&nbsp;&nbsp; ถ้าคุณเลื่อนก้อนยางไปบนผิวของยาง จะทำได้ยากกว่าถ้าคุณเลื่อนก้อนยางบนผิวของเหล็ก&nbsp; ตัวชี้บอกขนาดของแรงเสียดทานของวัสดุต่างๆที่นิยมคือ สัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน&nbsp; </p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp; สัมประสิทธ์แรงเสียดทาน&nbsp; คือ&nbsp; อัตราส่วนของแรงกระทำ&nbsp; กับน้ำหนักของวัตถุ&nbsp; &nbsp; &nbsp; ดังนั้นถ้าพื้นสัมประสิทธ์ของแรงเสียดทานเท่ากับ&nbsp; 1&nbsp; หมายความว่า&nbsp; คุณต้องออกแรงขนาด&nbsp; 10&nbsp; กิโลกรัม ผลักน้ำหนักที่มีขนาด&nbsp; 10&nbsp; กิโลกรัม&nbsp; &nbsp;&nbsp; แต่ถ้าพื้นนั้นลดสัมประสิทธ์แรงเสียดทานให้เหลือเท่ากับ 0.1&nbsp; &nbsp; คุณจะออกแรงเพียง&nbsp; 1&nbsp; กิโลกรัม&nbsp; ก็ทำให้น้ำหนักขนาด&nbsp; 10&nbsp; กิโลกรัมเคลื่อนที่ได้</p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; สรุปได้ว่า&nbsp;&nbsp; แรงเสียดทาน&nbsp; แปรตรงกับน้ำหนัก&nbsp;&nbsp; ถ้าน้ำหนักมากขึ้น&nbsp; คุณจะต้องออกแรงเพิ่มขึ้น เพื่อชนะแรงเสียดทานที่เพิ่มขึ้น</p><p><br /></p><p>สัมประสิทธ์แรงแสียดทาน&nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp; แรงเสียดทานมี 2&nbsp; ชนิด&nbsp;&nbsp; คือแรงเสียดทานจลน์&nbsp; และแรงเสียดทานสถิต&nbsp;&nbsp; ฉะนั้นสัมประสิทธ์จึงแบ่งออกเป็น&nbsp; 2&nbsp; ชนิด&nbsp; คือ&nbsp; 1.&nbsp; สัมประสิทธ์แรงเสียดทานจลน์&nbsp;&nbsp; จะคิดเมื่อวัตถุกำลังเคลื่อนที่&nbsp; 2.&nbsp; สัมประสิทธ์แรงเสียดทานสถิต&nbsp; &nbsp; จะคิดเมื่อวัตถุกำลังจะเริ่มเคลื่อนที่&nbsp; โดยทั่วไป&nbsp; สัมประสิทธ์แรงเสียดทานสถิตจะมากกว่าสัมประสิทธ์แรงเสียดทานจลน์เสมอ</p><p><br /></p><p><span style="color: red">ระบบเบรก</span></p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp; คุณจะเห็นได้ว่า&nbsp; ระยะจากเท้าจนถึงจุดหมุน&nbsp; ยาวกว่าระยะทางจากกระบอกสูบถึงจุดหมุน&nbsp; 4&nbsp;&nbsp; เท่า&nbsp; &nbsp;&nbsp; ดังนั้นแรงจากเท้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4&nbsp; เท่าก่อนไปถึงกระบอกสูบ</p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; เส้นผ่าศูนย์กลางของลูกสูบเบรกมากกว่าลูกสูบที่เท้า&nbsp; 3&nbsp; เท่า&nbsp; ดังนั้น&nbsp; ขนาดของแรงจะเพิ่มขึ้นเป็น&nbsp;&nbsp; 9&nbsp; เท่า&nbsp; &nbsp;&nbsp; เมื่อคำนวณแรงที่เพิ่มขึ้น&nbsp; จะเป็น&nbsp;&nbsp; 4&nbsp; x&nbsp;&nbsp; 9&nbsp; =&nbsp; 36&nbsp;&nbsp; เท่า&nbsp; ถ้าคุณออกแรง&nbsp; 10&nbsp; กิโลกรัมที่เท้า&nbsp; จะเกิดแรงเบรกขึ้น&nbsp; 360&nbsp; กิโลกรัม </p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp; ระบบเบรกมีปัญหาอยู่เหมือนกัน&nbsp; คือ ถ้าน้ำมันมีการรั่ว&nbsp;&nbsp; จะไม่สามารถเหยียบเบรกได้&nbsp; ที่เราเคยได้ยินว่าเบรกแตกบ่อยๆนั่นแหละ[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
• เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
• เข้าสู่ระบบด้วย Google

ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:

คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?

• ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
• มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
• ลืมรหัสผ่านของคุณ?

อยู่ในระบบตลอดเวลา

• X